วันอังคารที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2561

ทำไมตอนนี้มีแต่คนมาเตือนเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกแบบที่เราจะไม่เคยเจอในชีวิตเรามาก่อน

ประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยเสมอ เพราะเป็นวัฏจักรของโลกใบนี้
อยู่ที่จะกินเวลาเท่าไร
สองสามอาทิตย์ที่ผ่านมานั่งไล่อ่านหนังสือหลายๆเล่มตอนเย็นๆ อยู่กับตัวเอง ทำสมาธิ ได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์เศรษฐกิจที่ผ่านมาจากหนังสือคนเก่งๆ เช่น Ray Dalio ผู้บริหารกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลก และโรเบิร์ต คิโยซากิ คนเขียนพ่อรวยสอนลูก พูดตรงกัน
ซึ่งเค้าทำนายมาหลายปีแล้วว่าจะเจอวิกฤตแน่ๆ แต่ไม่รู้เมื่อไร
ถ้าเราไม่เคยอ่านประวัติศาสตร์ เราจะไม่รู้เลยว่าอเมริกาและเยอรมันก็ผ่านจุดตกต่ำที่สุด ยิ่งเยอรมันเกิดภาวะแบบเวเนซุเอล่าเมื่อช่วงก่อนและหลังสงครามโลก เริ่มตั้งแต่ปี 1930
เมื่อปี 1930 เรายังอยู่ชาติที่แล้วอยู่เลย ยังไม่มาเกิดในชาตินี้ เราจึงไม่รับรู้ความลำบากตอนนั้น
คนเยอรมันไม่มีจะกินคล้ายๆเวเนซุเอล่าอย่างไรอย่างนั้น
หลังจากนั้นก็เป็นช่วงฟื้นฟูประมาณ 25 ปีถึงเริ่มจะดีขึ้น
เริ่มดีขึ้นก็มาช่วงรุ่นพ่อแม่เรา ที่เศรษฐกิจโต เนื่องจากมีอัตราการเกิดที่สูงขึ้น
เศรษฐกิจจะโตได้ก็มาจากประชากรมีมากขึ้นและมีการทำงานหาเลี้ยงชีพและบริโภคมากขึ้น
รุ่นผมจึงไม่เคยเห็นการไม่มีกิน อดมื้อกินมื้อกัน เกิดมาเศรษฐกิจก็ดี
รุ่นพ่อแม่ค้าขายอะไรก็ได้ มีเงินมีทองเก็บมาจนถึงรุ่นผม
แต่ Ray Dalio และโรเบิร์ต คิโยซากิ บอกว่า เศรษฐกิจโตที่ผ่านมาคือ โตโดยการกู้หนี้ยืมสืน (Credit/Debt) มากกว่าการทำงานเพื่อให้ได้ผลผลิตของประชากร
มันคือระเบิดเวลา ที่รอวันแตก เปรียบเสมือน เรากู้มาใช้จ่าย และกู้หนี้ใหม่ไปโปะ หนี้เก่า ซึ่งหนี้มีแต่เพิ่ม ไม่มีวันลดเลย เป็นฟองสบู่หนี้ที่น่ากลัว
มันผ่านมาตั้งแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่ จนมาถึงรุ่นเรา ใช้เวลา 50-60 ปี
จะสังเกตช่วงนี้มีแต่คนมาเตือนเรื่องเศรษฐกิจว่าระวังให้ดี ว่าจะแย่กว่าที่รุ่นเราเคยเจอ (เพราะเราเกิดมาก็ไม่เคยเจอแบบแย่ๆมาก่อน)
สาเหตุหลักคือ คนเกิดน้อยลง เกือบทั่วโลก หนี้เราเพิ่มทุกวันแต่คนเราเกิดน้อย คนทำงานหาเงินใช้หนี้ก็น้อยลง แต่หนี้มีแต่เพิ่มมากกว่าเดิมไปเรื่อยๆ
เราไม่มีทางใช้หนี้ได้ เพราะการหาเงินน้อยลงมากกว่าหนี้ที่วิ่งพุ่งขึ้นไป
ซักวันฟองสบู่มันก็ต้องแตก อยู่ที่ว่ารัฐบาลแต่ละประเทศจะยื้อเวลาได้เท่าไร
พอฟองสบู่หนี้แตกเราก็อดอยากกัน ล้มละลายกัน
พอแย่กันสุดๆ มันก็จะเริ่มดีขึ้น เป็นวงจรวัฏจักร อาจจะกินเวลา 10-50 ปี ไม่มีใครรู้
รู้อย่างเดียวว่า ขออย่าให้มันเกิดที่รุ่นเราเลย (แต่ถ้าไม่เกิดรุ่นเราก็อาจจะไปเกิดที่รุ่นลูกหลานของเราแทน)
ความรุนแรงของการเกิดจะมากที่สุดที่เราเคยเจอ อาจจะประมาณเวเนซุเอล่าก็ได้ เพราะเราไม่เคยเจอเราถึงคาดไม่ได้ว่าเป็นอย่างไร
ที่สำคัญคือที่เค้าเตือนคือ ถ้ามันเกิดวิกฤตแบบนั่นจริงๆ เราจะเอาตัวรอดได้อย่างไร
สรุปมาประมาณนี้นะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เปรียบเทียบผลตอบแทนและความเสี่ยงการซื้อแฟรนไชส์ร้านกาแฟระดับประเทศกับการลงทุนในหุ้น PTT

เชื่อว่าหลายๆท่านที่ไม่มีธุรกิจเป็นของตัวเอง ส่วนใหญ่จะมีความฝันอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเองซักอย่างนึง อยากเป็นเจ้านายตัวเองไม่ต้องเป็นลูกน...