วันจันทร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

เมื่อเกิดวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ทั้งโลก สินทรัพย์ไหนจะปลอดภัยต่อเงินเฟ้อมากที่สุด โดยมองผ่านเวเนซูเอล่า.......

ตอนนี้เรามักจะได้ยินเรื่องเศรษฐกิจไม่ดี เงินฝืดกันมากผิดปรกติ ถ้าได้สังเกตตามร้านค้า ชาวบ้านทั่วประเทศ
มีหลายๆคนบ่นเรื่องเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ ข้าวของแพง แต่หาเงินแต่ละบาทยากเหลือเกิน
เงินหมื่น ใช้แปบเดียววันเดียวก็หมด แต่จะหากำไรเงินหมื่นใช้เวลาเป็นเดือนสองเดือน
พ่อค้าแม่ค้า คนทำธุรกิจเล็กๆถึงกลาง จะรู้สึกว่าเงินหายากจริงๆ
ที่จริงถ้ามองเป็นกลางๆ สาเหตุคือ โลกเปลี่ยนไป คนอยากเป็นนายตัวเองมากขึ้นเลยกระโดดเข้ามาในวงการค้าขาย
บวกกับโลกที่เปลี่ยนไปมากขึ้น ต่างชาติสามารถมาค้าขายในไทยได้มากขึ้น
เหมือนมีเค้กอยู่ก้อนนึง มีคนมาแย่งกินเค้กกันมากขึ้น ทำให้ส่วนแบ่งแต่ละคนน้อยลง

ช่วงนี้ทำให้มีข่าวคราวเรื่องจะเกิดวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ในไทย ออกมาเต็มเฟส เต็ม line กันไปหมด 
ผมเลยสงสัยว่าถ้าเกิดวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ สินทรัพย์อันไหนจะทำให้เราปลอดภัยมากที่สุด
มาค้นข้อมูลของเวเนซูเอล่า ตอนนี้เป็น case study อย่างดีเลยครับ
อย่างที่รู้ๆกันตอนนี้เวเนซูเอล่า เกิดวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ในประเทศเรื่องเงินเฟ้อแบบรุนแรง หรือเรียกว่า hyperinflation และเงินฝืดผสมปนเป
เราจะไม่พูดถึงสาเหตุที่เกิด เพราะมีหลายปัจจัยทั้งภายในประเทศและนอกประเทศ วิเคราะห์อันไหนก็ถูกหมด เพราะปัจจัยเป็นร้อยมารวมกันก็เกิดวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่
ตอนนี้ คนเวเนซูเอล่าทำงานได้เงินเดือน 1 ล้านโบลิวาร์ แต่ไข่ไก่ 6 ฟอง ราคา 1.5 ล้านโบลิวาร์
เท่ากับว่าทำงาน 1 เดือน ซื้อไข่ไก่ ได้ 9 ฟอง
โหดร้ายมากๆครับ

ถ้าสมมติว่าเกิดเงินเฟ้อแบบนี้ในประเทศไทย เราจะทำอย่างไรกันดี ไม่มีใครตอบได้ว่าจะเป็นแบบเวเนซูเอล่าไหม
บางคนบอกว่าไม่มีทางเพราะเศรษฐกิจกับปัจจัยของไทยคนละอย่าง แต่บางคนบอกว่ามีโอกาสเพราะตอนนี้โลกเรามีสงครามการค้าระหว่างอเมริกากับจีน
ถ้าไทยตามไม่ทันโดนลูกหลง โลกเปลี่ยนไปไวปรับไม่ทัน ก็อาจะจะเกิดโศกนาฎกรรมแบบเวเนซูเอล่า 

เราไม่รู้อนาคตว่าจะเป็นแบบนั้นหรือไม่ แค่เราสามารถวางแผนเตรียมรับมือได้ในอนาคต ถ้ามันเกิด
สินทรัพย์อะไรละที่จะปกป้องเราให้พ้นจากเงินเฟ้อแบบรุนแรงในตอนนั้นได้

ที่ดิน???? 
ตอนนี้คนเวเนซูเอล่ากำลังจะย้ายออกนอกประเทศเพราะค้าขายไม่ดี เงินเฟ้อรุนแรงอย่างมาก
ถึงตอนนั้น เรามีที่ดินอยากจะขายเพื่อเอาเงินไปกินใช้เพื่อประทังชีวิต แต่ตอนนั้นเมื่อเกิดวิกฤตเศรษฐกิจไม่มีมีใครอยากซื้อที่ดิน
เพราะซื้อไปแล้ว จะทำธุรกิจอะไรได้
ถ้าจะขายก็นอกจากนายทุนมาซื้อ แต่ถึงตอนนั้น นายทุนจะกดราคาให้ต่ำที่สุดเพื่อให้ได้ของดีที่สุด
เอาตรงๆ ถ้าเราเป็นนายทุนเราก็ต้องกดราคาเพราะจังหวะมันได้ ใครอยากจะซื้อของแพง จริงไหมครับ
โลกเรามันโหดร้ายแบบนี้แหละครับ

ทองคำ?????
ตอนเศรษฐกิจพอไปได้ ปี 2007-2017 ราคาทองคำในเวเนซูเอล่า จะอยู่ที่ราคา 7600-14000 โบลิวาร์ต่อ ทองคำ 1 ออนซ์ ราคาไม่ค่อยไปไหนหลายๆปี
แต่พอเกิดวิกฤตเศรษฐกิจตั้งแต่ต้นปี 2018 ราคาทองคำวิ่งกระฉูดไป ที่ 101 ล้านนนนนนโบลิวาร์
ที่จริงทองคำไม่ได้มีกำไรขนาดนั้น แต่ทองคำคือตัวปกป้องเงินเฟ้อได้ดีที่สุด เพราะของกินของใช้ ค่าครองชีพ เพิ่มมากขึ้นตามเงินเฟ้อ
ทองคำก็วิ่งไปปกป้องเพื่อคานอำนาจกันกับเงินเฟ้อ
ถึงตอนนั้นถ้าเรามีทองคำกับที่ดิน ถ้าจะขายให้ได้ราคาดี เราขายทองคำง่ายกว่าถ้าเราจำเป็นต้องเอาเงินมากินมาใช้
ทองคำมีราคาตามตลาดโลก มีความต้องการสูง ขายได้ทุกวันตามราคากลางของแต่ละประเทศที่ผูกกับตลาดโลก
เราทยอยขายที่ละบาทหรืออนซ์ ไม่ต้องขายหมดก็ได้ เผื่อเงินเฟ้อยังเฟ้อไม่หยุด ทองคำก็วิ่งไปที่ราคาสูงต่อได้อีก ตามรูปข้างล่าง



ตลาดหุ้น?????
ตอนเกิดวิกฤตเวเนซูเอล่าที่เงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้น ปี 2016-2017 ตลาดหุ้นยังสามารถทำจุดสูงสุดได้ต่อเนื่อง 
ยังไม่ตกมารุนแรง
แต่พอเมื่อราคาขึ้นไปจุดสูงสุดที่ดัชนีตลาดหุ้นเวเนซูเอล่า 120,000 จุด เมื่อกลางปี 2017
หลังจากนั้นก็ตกมาแบบรุนแรง เหลือ 300 กว่าจุด ตกแบบโลกจะแตก ไม่กี่วันแบบเปิด GAP เลยครับ
โหดร้ายจริงๆ ดังรูปข้างล่าง
ถามว่าตอนนั้นมีใครรู้ไหม ว่าจะเกิดแบบนี้ ผมว่าต้องมีคนรู้เยอะและตอนนั้นก็กลัวตลาดหุ้น
คำถามว่าเงินเฟ้อเริ่มพุ่งเศรษฐกิจเริ่มแย่มากๆตั้งแต่กลางปี 2016 แล้วทำไมหุ้นยังขึ้นละ
ถ้าคำนึงถึงผลประโยชน์ ตอนนั้นใครๆในเวเนซูเอล่า ก็รู้ว่าต้องตก แต่ทุนใหญ่จะขายหุ้นใครละ
ก็ต้องล่อเม่าไปซื้อของที่ทุนใหญ่มีก่อนดีกว่าไหม? เค้าจะได้ปลอดภัย
เราทุกคนมีความเห็นแก่ตัวอยู่แล้ว



จากข้อความข้างบน จะเห็นได้ว่าสินทรัพย์ที่ปกป้องเงินเฟ้อตอนเกิดวิกฤตเศรษฐกิจที่น่าสนใจที่สุด น่าจะเป็นอันไหนนะครับ

ถ้าเราเป็นทุนใหญ่มันง่ายมากเลย ที่จะวางแผนหลายๆสินทรัพย์เพื่อป้องกันเงินตัวเอง
แต่น่าเสียดายเราเป็นทุนเล็กๆในวัฏจักรของโลกเมือเกิดวิกฤตเศรษฐกิจขึ้นมาที่ไร 
เราไม่ใช่เทวดาหรือผู้หยั่งรู้ฟ้าดิน ดังนั้นเราจะโดนผลกระทบก่อนคนแรกๆ 
เราต้องวางแผนให้ดีดี เพื่อครอบครัวและคนที่อยู่ข้างหลังเราในอนาคต

เสริมอีกนิดนะครับ แชร์ประสบการณ์การลงทุนของตัวเองนะครับ

ส่วนตัวผมทำธุรกิจค้าปลีกเฟร์นิเจอร์และครอบครัวที่บ้านทำร้านทองเล็กๆๆในเมืองเล็กๆ
ประสบการณ์การลงทุนของผม ก็มีตั้งแต่ ซื้อขายที่ดิน ให้เช่าที่ดิน บริหารการลงทุนทองแท่งให้ที่บ้าน
ลงทุนหุ้นในเมื่อปี 2010 ดีบ้างเสียบ้าง เพราะเมื่อก่อนเรามีอีโก้ ตอนนี้ดีขึ้นเยอะ 
ปีที่แล้วก็ลองเทรด Forex ก็กำไรพอได้
ลงทุนแบบพอเพียงนะครับ เน้นจำกัดความเสี่ยง ลดความเสี่ยงให้น้อยที่สุด
เนื่องจากผมค้าขายเล็กๆ ทุกวันจะพบเจอคนหลากหลาย 
ปีสองปีหลังนี่เจอแบบ มีคนเดือดร้อนเรื่องเงินมาก เอาที่มาจำนองกับผม
แต่ผมไม่ค่อยรับเพราะเมื่อก่อนรับแล้วมีแต่ปัญหาเราเป็นคนใจอ่อน เสียเปรียบตลอด

ส่วนใหญ่ปัญหาเดิมๆของคนที่เดือดร้อนตอนนี้คือ ไม่เตรียมตัวตอนวัยหนุ่มสาว คิดว่าเราเก่งอะไรก็ดีเหมือนเดิม
คิดว่าเก็บเงินไรหนักหนาไม่รู้ตายวันตายพรุ่ง แต่ถ้าเราไม่ตายไม่มีเงินนี้โลกโหดร้ายแน่ๆ
ไม่คำนึงถึงความเสี่ยงในอนาคตที่เราไม่สามารถรู้ได้
สิ่งที่ดีในอดีต ไม่ได้การันตีอนาคตว่าจะเหมือนเดิม
เดี๋ยวก็ขายดีเหมือนเดิม เดี๋ยวก็ได้เงินเหมือนเดิม เดี๋ยวก็มีงานทำเหมือนเดิม เลยประมาทไม่เตรียมพร้อม
เพราะคำว่าเหมือนเดิม เจอเหตุการณ์สะเทือนใจเรื่องเงินหลากหลายมากเลยครับ
เจอแบบอายุ 40-60 ปี ในช่วงปีสองปี เพราะเศรษฐกิจการค้าตกต่ำลง
เจอคนอายุ 30-35 ปีกู้เงินธนาคาร 10-30 ล้านภายในปีสองปีก็ไปไม่ไหว
ทุกวันนี้ได้แต่ปลงและคอยเตือนคนรู้จักรุ่นใหม่ๆไม่ให้ประมาทกับความเสี่ยงครับ
โหดจริงๆนะครับ ถ้าตอนอายุเยอะเราไม่มีเงิน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เปรียบเทียบผลตอบแทนและความเสี่ยงการซื้อแฟรนไชส์ร้านกาแฟระดับประเทศกับการลงทุนในหุ้น PTT

เชื่อว่าหลายๆท่านที่ไม่มีธุรกิจเป็นของตัวเอง ส่วนใหญ่จะมีความฝันอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเองซักอย่างนึง อยากเป็นเจ้านายตัวเองไม่ต้องเป็นลูกน...