ทุกวันนี้ คือโลกของเทคโนโลยี 4.0 เชื่อว่าคนส่วนใหญ่เคยซื้อของผ่านโลกออนไลน์ e-commerce 
ขนาดพ่อและป้าผม อายุเกิน 60 ที่ปฎิเสธการซื้อของออนไลน์เมื่อหลายปีก่อน ตอนนี้ยังมาซื้อออนไลน์เลยครับ
ส่วนใหญ่นิยมซื้อ Lazada เพราะสินค้า โฆษณามันเด้งมาใน Youtube 
ส่วนตัวผมเป็นพ่อค้า SMEs ตัวเล็กๆ ยังชอบไปดูสินค้าและบางทีก็ซื้อใน Lazada
บางอย่างสินค้ามันถูกจนเหลือเชื่อ บางอย่างถูกกว่าโรงงานขายส่งร้านค้าอีกครับ เลยสงสัยแล้วถ้าเราอยากจะขายสินค้าใน Lazada เราจะเหลือกำไรเท่าไร
คุ้มพอที่จะทำไหม

อย่างแรกก็สมัครขายของกับ Lazada ในเวบของเค้า เค้าก็จะส่งเมล์มาหาเรา บอกเงื่อนไขของเรา แน่นอนทุกธุรกิจต้องมีต้นทุนและค่าใช้จ่าย
และค่าใช้จ่ายที่เราต้องเสียใน Lazada ดังรูปข้างล่าง

-ข้อแรกคือ ค่าคอมมิชชั่นที่เราต้องให้กับ Lazada ในการขายสินค้าแต่ละชิ้น  สินค้าแต่ละประเภทจะแตกต่างกัน เช่น สินค้าเกี่ยวกับเฟอร์นิเจอร์จะเสียค่าคอมมิชชั่น 8-10% ของราคาสินค้า สินค้าเกี่ยวกับเครื่องสำอาง ของกินของใช้จะเสีย 7-8%
จะมีสินค้าเกี่ยวกับ มือถือ TV หรืออุปกรณ์คอมพิวเตอร์ เสียค่าคอมน้อยหน่อยประมาณ 1-2% 
สมมติเราจะขายสินค้าเฟอร์นิเจอร์ใน lazada ถ้าราคาสินค้า 100 บาท แล้วเราขายได้ เราจะเสีย 7-8 บาท ต่อการขาย



ข้อที่สอง คือค่าธุรกรรมทางการเงิน 2% ของสินค้า ตรงนี้หมายถึง เวลาลูกค้าสั่งซื้อแล้วชำระสินค้าผ่านบัตรเครดิต หรือเดบิต 
สินค้า 100 บาท ทาง Lazada จะขอค่าชำระผ่านบัตร 2 บาท
-ข้อที่สาม คือค่าขนส่งที่เราต้องออกเอง ตามน้ำหนักสินค้า คือสินค้าตัวไหนหนักมากก็ส่งแพงหน่อย หนักน้อยก็ส่งถูกหน่อย
ข้อที่ 4 ตรงดอกจัน คือค่าใช้จ่ายยังไม่รวม ภาษี 7%********* 

สรุปคร่าวๆนะครับ ตามข้อ 1 ถึง 4 สมมติเราขายสินค้าเป็นเครื่องสำอาง ราคาสินค้า 100 บาท เราจะโดน Lazada หัก
-ค่าคอมมิชชั้น 7% คือ 7 บาท
-ค่าธุรรมการเงิน 2% คือ 2 บาท
-ค่าขนส่ง สมมติของชิ้นเล็กส่งชิ้นละ 3% คือ 3 บาท
- ค่าภาษี Vat 7% แต่ค่าภาษี ถ้าเรามีภาษีซื้อเรามาหักได้ ข้อนี้ต้องคำนวนด้วยสำคัญมากครับ เพราะรัฐจะเริ่มเก็บภาษีออนไลน์ละครับ ตีค่าาภาาษีเต็มๆ คิดเป็น 7 บาท

รวมค่าใช้จ่ายจะตกประมาณ 19% หรือ 19 บาท
สินค้าเราขาย 100 บาท โดน Lazada หักไปละประมาณ 19 บาท หรือ 19% เมื่อขายสินค้าได้ เหลือเงินให้เรา 81 บาท
สมมติต้นทุนสินค้าที่เราซื้อมาขายอยู่ที่ 70 บาท
เราจะได้กำไรประมาณ 81-20 = 11 บาท หรือได้ 11%

การคำนวนนี้คร่าวๆนะครับ เพราะตัวแปรสำคัญที่หาค่าใช้จ่ายได้ลงตัวคือ น้ำหนักสินค้า บางทีค่าส่งอาจจะแพงหรือถูกกว่าที่คำนวนก็ได้ครับ

พอดูค่าใช้จ่ายและกำไรมาแล้ว จึงไม่แปลกใจว่าทำไมสินค้าใน lazada หรือโรงงานส่วนใหญ่ หรือยี่ปั๊วเจ้าใหญ่ๆจึงมางขายสินค้าเองใน Lazada
เพราะต้นทุนเค้าถูกกว่าร้านค้าและระบบภาษีเค้าดีกว่าร้านปลีก!!!!!
โรงงานผลิตสินค้าเอง หรือ ยี่ปั๊วรับซื้อสินค้าจำนวนเยอะมากจากโรงงา่นทำให้ได้สินค้าราคาถูกมากๆ

ลองคำนวนตัวเลขกำไรที่เราเหลือหลังหักค่าใช้จ่ายแล้ว แล้วจะทำการค้าขายกับ Lazada ได้นะครับ ถ้าได้กำไรคุ้มที่จะทำ
อยู่ที่เราเองจะเลือกเพราะกำไรมากน้อยแล้วแต่บุคคล 

แต่ส่วนตัวผม ผมเป็นร้านค้าปลีก ไม่สามารถสู้ต้นทุนจากโรงงานหรือยี่ปั๊วที่มีสายป่านยาวได้
ผมเลยเลือกทางอื่นแทนคือลงทุนในหุ้นแทน
เพราะถ้ามองทางเลือกลงทุนในหุ้น เราไม่ต้อง Stock สินค้า
ถ้าเราลงขายใน Lazada เราต้องเตรียม stock ให้พร้อม ถ้าเราไม่พร้อมและมียอดสั่งซื้อมา ของไม่มี
เราจะโดน Lazada ปรับเงิน อาจจะทำให้เราขาดทุน
เราต้องมีเงินสำรองจ่ายค่าสินค้าที่เราซื้อจากโรงงานไปก่อน 
ถ้าเราหมุนเงินไม่เก่ง สายป่านไม่ยาวพอ อาจจะทำให้เราขาดสภาพคล่องก็ได้
และเมื่อเรา stock สินค้าแล้วขายไม่ได้ เพราะคู่แข่งเจ้าอื่นราคาถูกกว่าเรา ทำให้เงินเราจม สินค้าบางตัวอาจจะหมดอายุ ทำให้เราขาดทุนได้