วันพุธที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2561

เรียนจบปริญญาตรีได้ 15000 เรียนสิบกว่าปีมาเป็นขี้ข้าเค้า...ข้อความเท่ๆแบบนี้เกี่ยวข้องกับการลงทุนหุ้นยังไง

 เคยได้ยินข้อความเท่ๆสร้างแรงบันดาลใจตามเพจ ตามเพื่อนใน Facebook ช่วงนี้กันบ้างไหมครับ
“เรียนกันมาทำไม เรียนสิบกว่าปี จบมาก็เป็นขี้ข้าเค้า เงินเดือน 15000 บาท”
ฟังแล้วทะแม่งๆ รู้สึกไม่ดีกันบ้างไหมครับ ทำไมคิดแบบนั้นกัน
ในฐานะเคยเป็นลูกจ้างและตอนนี้เป็นเจ้าของธุรกิจเล็กๆ อยากจะบอกคนรุ่นใหม่ๆที่คิดแบบนั้นเหลือเกินว่า มันไม่น่าเริ่มคิดในแง่ลบแบบนั้นทั้งที่เพิ่งจบมา
ถ้าเราไม่มีธุรกิจพ่อแม่หนุนหลัง ไม่ได้มีฐานะพอสมควร อย่าพยายามคิดแบบนั้นเลยครับ
เหตุผลลองนึกตามนะครับ
ถ้าสมมติเราเป็นเจ้าของธุรกิจ เราจะจ้างคนที่เพิ่งเรียนจบ เพื่อเปิดโอกาสให้ลองทำงานแสดงฝีมือกัน
เริ่มจ้างคุณจะจ้างเท่าไร???
ผลงานก็ไม่มี รู้จักก็ไม่รู้จัก ไม่มีอะไรรับประกันมาเลยว่าทำงานได้ ขนาดคนมีประสบการณ์ทำงานมาก่อนยังไม่ได้รับประกันเลยว่าจ้างมาแล้วจะทำงานดี
เงินเดือนละ เราจะเริ่มที่เท่าไร ร้อยทั้งร้อยบริษัทเค้าก็เริ่มที่เงินเดือนขั้นต่ำตามสายอาชีพ ตามฐานเงินเดือนของบริษัท
พอทำงานไปเรื่อยๆ หัวหน้าหรือเจ้าของบริษัทเริ่มเห็นฝีมือ เค้ารู้สึกว่าใช้ได้ ทำงานเกินเงินเดือน ทำกำไรให้บริษัทเยอะ 
ส่วนใหญ่เค้าจะห่วงและรักคุณ กลัวคุณจะลาออกไปทำบริษัทอื่น
เค้าจะให้เงินเดือนคุณมากขึ้นตามผลงาน อาจจะทำงาน 5 ปีเงินเดือนจาก 15000 เป็น 50000 ผมก็เคยเห็นมา
หรือถ้าบริษัทไม่เห็นค่าคุณ คุณก็เอาฝีมือและทักษะที่คุณทำมาย้ายไปบริษัทอื่น หรือไปประกอบธุรกิจเอง
คุณเจ๋งจริงๆ ใครๆก็อยากได้คุณไปทำงาน เพราะคุณมีประสบการณ์และได้นิสัยการพัฒนาตัวเองติดตัวมาแล้ว
แต่ถ้าคุณไม่พัฒนาตัวเองทำงานเช้าชามเย็นชาม เงินเดือนก็เท่าเดิม 15000 เท่าที่คุณเคยบอกตอนจบใหม่ๆละครับ เผลอๆเวลาบริษัทต้องการลดคน เค้าจะมองหาคนที่ทัศนคติแบบนี้เป็นคนแรก
ชีวิตการทำงาน เงินเดือนมันอยู่ที่คุณ ไม่ใช่อยู่ที่บริษัท
คุณไม่ใช่ขี้ข้า แต่คุณคือเจ้าของบริษัท และบริษัทอันนั้นคือชีวิตของคุณเอง จะได้ดีเงินเดือนดีหรือไม่อยู่ที่คุณเอง
ถ้าคุณมีทัศนคติว่าขี้ข้าตั้งแต่เริ่มต้น จิตใต้สำนึกคุณก็จะจดจำฝังไว้ในจิตใจคุณ ทำให้การพัฒนาหยุดลง

เหมือนการลงทุนในหุ้น ถ้าเรามีทัศนคติว่าเป็นการพนัน เชื่อแต่ที่คนอื่นวิเคราะห์  ไม่พัฒนาตัวเองหาความรู้เพิ่ม ไม่กล้าทดลอง ลองผิดลองถูก
บางทีการอ่านหนังสือหุ้นอย่างเดียวจะทำให้เราได้ไอเดีย เหมือนการเรียนหนังสือ
แต่ถ้าคุณไม่กล้าที่จะทดลองลงทุนในหุ้นแบบจริงๆและพัฒนาการลงทุนต่อไปเรื่อยๆ เหมือนเรียนอย่างเดียวไม่เคยมาทำงานจริงๆ
คุณก็จะขาดทุนเรื่อยๆ
อาจจะมีบางช่วงคุณมีกำไร แต่สุดท้ายเค้าก็กินเงินคุณหมดอยู่ดี
เมื่อเกือบสิบปีก่อนผมก็เป็น ขาดทุนบ่อยๆ เพราะคำว่าอีโก้ ตัวเดียวแท้ๆ

ถ้าชอบบทความรบกวน Login ในเวบและกด Like ให้หน่อยนะครับ

และสามารถติดตาม บันทึกการเทรดหุ้นและ Forex จาก เพจของผมได้ที่ https://www.facebook.com/merchantetrader/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เปรียบเทียบผลตอบแทนและความเสี่ยงการซื้อแฟรนไชส์ร้านกาแฟระดับประเทศกับการลงทุนในหุ้น PTT

เชื่อว่าหลายๆท่านที่ไม่มีธุรกิจเป็นของตัวเอง ส่วนใหญ่จะมีความฝันอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเองซักอย่างนึง อยากเป็นเจ้านายตัวเองไม่ต้องเป็นลูกน...