ช่วงนี้ใครๆก็บอกเศรษฐกิจไม่ดี ค้าขายแย่ มีข่าวโรงงานปิดตัวกันเยอะ มีข่าวคราวปลดพนักงาน(Lay off) หลายๆแห่งมาเรื่อยๆ
ผมเลยมานึกถึงประสบการณ์ตัวเองที่เคยพบเจอในปี 2008 ที่เกิดวิกฤต แฮมเบอร์เกอร์ Crisis
ส่วนตัวเมื่อก่อนตอนทำงานเป็นวิศวกรที่บริษัทต่างชาติแห่งแห่งนึง ตอนนั้นผมไม่รู้สภาวะการณ์เศรษฐกิจของโลกเท่าไร
รู้แต่ในมุมของพนักงาน ตื่นเช้า ทำงาน แก้ปัญหางาน กลับบ้านนอน
ไม่เคยสนใจข่าวเศรษฐกิจในไทยหรือโลก เพราะลำพังทำงาน แก้ปัญหาตั้งแต่ 8 โมงเช้าถึง 3 ทุ่มเกือบทุกวันก็เหนื่อยแทบตายอยู่แล้ว
ตอนปี 2008 วิกฤกติเศรษฐกิจอเมริกาเกิดขึ้น หรือ เรียกกันว่า hamburger Crisis ยอดขายโรงงานตกต่ำมาก บริษัทแม่มีคำสั่งปลดพนักงานฟ้าผ่าเพราะต้องการลดต้นทุนของบริษัท เพื่อไม่ให้สถานการณ์การเงินบริษัทสั่นคอนถึงขั้นล้มละลาย
ตอนคำสั่งออกมีข่าวออกมาแล้วจะ Lay off ข่าวลือกันต่างๆนานา ส่วนตัวผมตอนนั้นผมอยากโดน lay off มาก เบื่องาน งานหนัก กลับบ้านเที่ยงคืน ตีสามก็โทรมาปลุกเครื่องจักรเสีย เสียสุขภาพจิตมากมาย
เจอหน้าเพื่อนตอนมีข่าวว่าจะมี Lay off ผมถึงประกาศกร้าวเลย ขอให้เป็นผม ตอนแรกจะลาออกถึงขั้นเดินไปบอกคนสนิทของผู้จัดกาารให้เลือกผม เพราะผมอยากได้เงินชดเชยสามเดือน แล้วไปนอนเล่นเฉยๆพักผ่อน ค่อยหางานใหม่
ช่วงระหว่างรอคำสั่ง lay off ช่วงนั้นในบริษษัทสนุกสนานแซวกันมัน หลายๆอยากได้เงินก้อน อยากจะโดน lay off กันมาก ข่าวลือคนนี้โดนคนนี้ไม่โดน Lay off สะพัดมากมาย
พอถึงวันคำสั่งออกจริงๆไม่มีใครรู้ จะมีผู้จัดการเรียกคนที่โดน lay off มาพบแล้วพาไปห้องผู้อำนวยการซึ่งมี รปภ ดักอยู่หน้าห้อง ผู้อำนวยการพูดคุยปลอบใจ บอกเหตุผลแล้วให้ รปภ. คุมตัวออกไป โดยไม่ให้เก็บของด้วยซ้ำ
เพราะกลัวบางคนสติแตก ไปทำลายข้าวของ ของบริษัทเสียหาย
โชคร้ายที่ไม่ใช่ผม ผมเสียใจมากที่ไม่โดน Lay off โดนกันไปเกือบ 50 คน แผนกละสองสามคน
วันนั้นจำได้เลย คนที่ไม่โดน Lay off หลังเหตุกาารณ์ก็มานั่งก็มาคุยกันไม่รู้สึกอะไร คุยกันถึงคนที่โดนอย่างเศร้าสลด
ความลำบากของคนที่โดน ต้องผ่อนรถ ผ่อนบ้านเลี้ยงดูพ่อแม่ อะไรหลายๆอย่างที่ดราม่ามาเต็มในวันนั้น
สาเหตุของคนที่โดน Lay off เท่าที่ผมได้คุยกับหลายๆคน มีดังนี้
1. มาสาย กลับก่อน มอบหมายงานอะไรก็ทำไม่สำเร็จตรงเวลา
2. ใส่เกียร์ว่างที่ทำงานบ่อยๆ เกี่ยงงานเกี่ยงหน้าที่กับคนอื่นๆ
3. ไม่พัฒนาตัวเอง ไม่ยอมเรียนรู้งานและทำให้มันดีขึ้น
เวลาบริษัทโดนพิษเศรษฐกิจ และต้องการลดต้นทุนพนักงานลง เค้าจะมองหาคนในสามข้อข้างบนก่อน
เพราะผลประโยชน์ตอบแทนคืนให้บริษัทน้อยกว่าคนอื่นๆ
แต่ต้องเข้าใจบริษัทนะครับ ถ้าบริษัทอยู่ไม่ได้ ล้มละลาย พนักงานทุกคนก็อยู่ไม่ได้เช่นกัน เค้าต้องทำการตัดเนื้อร้ายเพื่อให้บริษัทอยู่รอดก่อน
ถ้าเราไม่อยากเป็นคนแรกที่โดนเลือกให้ Lay off คนแรกๆ เราต้อง ขยัน อดทน ซื่อสัตย์ พัฒนาตัวเองตลอด เพื่อสร้างประโยชน์ให้แก่บริษัท
ถ้าตอนนั้นถ้าคุณมีภาระต้องดูแลครอบครัวของคุณ พ่อแม่ของคุณ
บางคนอายุเยอะแล้ว จะไปหางานใหม่ที่ไหนก็ลำบาก
เชื่อผมเถอะ ถึงตอนนั้นคุณไม่อยากโดน Lay off แน่ๆล้านเปอร์เซ็นต์
นี่แหละระบบทุนนิยม
แต่ก็มีบางบริษัทลดพนักงานลงก็แล้วแต่ยังล้มละลาย แล้วเราจะทำยังไง
เราก็ต้องเตรียมตัววางแผนตั้งแต่เริ่มทำงาน อดทน ประหยัดเก็บเงิน และหาทางทำให้เงินงอกเงยไปเรื่อยๆ เผื่อวันใดเราไม่มีงานทำเราและครอบครัวจะอยู่ได้อย่างสบายๆ
หุ้นเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในการลงทุนอย่างหนึ่ง
มีคนหลายๆคนบอกว่าผมพูดง่ายว่าลงทุนในหุ้นแล้วงอกเงย แต่ทำมันยากมาก
ผมก็ได้แต่บอกว่า ไม่มีอะไรง่ายในโลกทุนนิยมใบนี้ มีแต่ต้องขยันและพัฒนาตัวเองตลอดเวลา
คุณลงทุนในหุ้น ก่อนที่คุณจะลงทุนคุณก็ต้องศึกษาว่าาหุ้นแต่ละตัว มีข้อดียังไง จะทำให้คุณเจ๊งไหม
คุณก็ต้องหาหนังสืออ่าน ลองวิเคราะห์งบการเงินและลองซื้อขายหุ้นจริงๆ
มันไม่มีอะไรง่าย แต่ไม่ใช่ว่าจะทำไม่ได้ ถ้าคุณตั้งใจพอ
ถ้าชอบบทความรบกวน Login ในเวบและกด Like ให้หน่อยนะครับ
และสามารถติดตาม บันทึกการเทรดหุ้นและ Forex จาก เพจของผมได้ที่ https://www.facebook.com/merchantetrader/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น