วันพุธที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2561

เงินบาทอ่อนหรือแข็ง.......มีผลต่อต่างชาติเข้ามาซื้อขายหุ้นไทยหรือไม่


คราวที่แล้วผมได้เขียนบทความ ถ้า SET ไทยจะขึ้นต่างชาติต้องช่วยซื้อ ตาม link https://is.gd/508shW
หรือ link https://merchantengineerigntrader.blogspot.com/2018/04/set-2500.html

ช่วงนี้เงินบาทผันผวนมากๆ เมื่อเทียบก่อนเงินดอลล่าร์ เดี๋ยวก็แข็งเดี๋ยวก็อ่อน 
สงสัยคำว่าเงินบาทแข็งหรืออ่อนกันไหมครับ อ่านๆไป งง เงินบาทสูงหรือต่ำ ต่อ 1 ดอลล่าร์ 
อันไหนเรียกแข็งอันไหนเรียกอ่อน

สมมติ เงินบาทวันนี้ 31 บาท ต่อ 1 ดอลล่าร์ USD 
ถ้าสมมติพรุ่งนี้ ขึ้นไป  32 บาท ต่อ 1 ดอลล่าร์ USD เค้าจะเรียกกันว่า เงินบาทอ่อน เพราะ 1 USD แลกเงินบาทได้มากขึ้น (อ่อนปวกเปียก)
แต่ถ้าลงไป 30 บาทต่อ 1 ดอลล่าร์ จะเรียกกันว่า เงินบาทแข็ง เพราะ 1 USD แลกเงินบาทได้น้อยลง (แข็งโป๊ก)


แล้วเงินบาทแข็งอ่อนมีผลต่อการซื้อหรือขายหุ้นไทยของต่างชาติยังไง 
ผมเลย plot กราฟความสัมพันธ์ ระหว่างเงินบาทต่อดอลล่าร์กับ ดัชนี SET ไทย ตั้งแต่ปี 2545-2560 
ตามรูปด้านล่างนะครับ


ที่มา www.set.or.th


จะสังเกตเห็นว่า ตั้งแต่ปี 2545 จนถึงปี 2560 เงินบาทแข็งโป๊กจาก 43 บาทต่อ 1 USD ในปี 2545 เหลือ 33.93 บาทต่อ 1 USD ในปี 2560
คิดเป็นเงินบาทแข็งค่า 15 ปีที่ผ่านมา = (43-33.93)/43 *100 = 21% โดยประมาณ

เมื่อเทียบกับดัชนี SET แล้ว เหมือนมีความสัมพันธ์กับเงินบาทแข็งค่าใน 15 ปีที่ผ่านมา
เงินบาทมีการแปรผกผันกับดัชนี SET เมื่อเงินบาทแข็งค่าดัชนี SET เหมือนจะขึ้นจาก ปี 2545 ที่ดัชนี SET 356 จุด ขึ้นมาถึง 1752 ในปี 2560

ทำไมเงินบาทอ่อนหรือแข็งมีผลต่อดัชนี SET และหุ้น เราลองมาคำนวณในมุมชาวต่างชาติที่จะมาซื้อหุ้นไทยกันดีกว่า 


***สมมติเราเป็นกองทุนต่างชาติ ขนเงิน 10 ล้าน USD มาซื้อหุ้น PTT ปลายปี 2560 ที่ ราคา 440 บาท โดยตอนนั้นอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 33.93 บาทต่อ USD

1. เงิน 10 ล้าน USD แลกมาเป็นเงินบาทได้ 10,000,000*33.93 = 393,0000,000 บาท
2.  ซื้อหุ้น PTT ที่ราคา 440 บาท ได้ 393,000,000 / 440 = 771,136 หุ้น

เดือนเมษายน 2561 PTT ขึ้นมาที่ ราคา 550 บาท แล้วเราอยากขายที่ราคานี้

เราจะได้กำไร ทั้งหมด = (550-440) * 771,136 = 84.25 ล้านบาท

นี่คือกำไรก้อนแรก ที่เราได้ และเราจะแลกเงินกลับเป็น USD เอาเข้าประเทศ

ถ้าอัตราแลกเปลี่ยนเท่าเดิม เราจะได้ 84.25 ล้านบาท หารด้วย 33.93 = 2.5 ล้าน USD

แต่ถ้าเงินบาทแข็ง เป็น 31.5 บาท ต่อ 1 USD เราจะได้เงินกลับ = 84.25 ล้านบาท หารด้วย 31.5 = 2.692 ล้าน USD

กำไรต่อที่สองคืออัตราแลกเปลี่ยน จาก 33.93 เป็น 31.5 บาทต่อ 1  USD
กำไรเพิ่มอีก 2.692 -2.5 = 0.192 ล้าน USD หรือ 192,000 USD โดยประมาณ
ยังไม่รวมกำไรจากเงินต้น 393 ล้านบาทด้วยนะครับ
เงินต้น 393 ล้านบาทแลกเป็น USD ที่ 31.5 บาท จะได้ 12.47 ล้านUSD
ได้เงินกลับไปทั้งหมด 12.47+2.692 = 15.162 ล้าน USD จากเงินต้น 10 ล้านUSD กำไรทั้งหมดคือ 5.16 ล้าน USD หรือ 51.6%!!!!!!!!


ในทางกลับกันเงินบาทอ่อน สมมติอ่อนค่าเท่ากับ 35 บาท ต่อ USD

กำไรเมื่อแลกเปลี่ยนเป็น USD จะเหลือ 2.42 ล้าน USD กำไรลดลงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ 33.39  = 0.08 ล้าน USD หรือ 80000 USD 


จะเห็นได้ว่าอัตราแลกเปลี่ยนเงิน บาท บาทอ่อนหรือแข็งมีผลต่อกำไรในรูปแบบค่าเงิน USD
ถ้าเราเป็นต่างชาติ เราจะซื้อหุ้นไทย SET ตอนนี้ที่เงินบาทอ่อนๆ และมาขายตอนบาทแข็งๆ กำไรรูปแบบ USD เราจะมากขึ้นตามไปด้วย


แต่ทั้งนั้ทั้งนั้นไม่ได้หมายความว่าเงินบาทอ่อน หุ้นหรือ SET ไทยจะขึ้น หรือ ลงนะครับ
ปัจจัยหุ้นขึ้นหรือลงมีหลายปัจจัย เรื่องอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทกับ USD เป็นส่วนนึงเท่านั้นครับ
บทความนี้่ชี้ให้เห็นถึงอัตราาแลกเปลี่ยนมีผลต่อกำไรมาากขึ้นหรือน้อยลงในรูปแบบสกุลเงิน USD เท่านั้นครับ




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เปรียบเทียบผลตอบแทนและความเสี่ยงการซื้อแฟรนไชส์ร้านกาแฟระดับประเทศกับการลงทุนในหุ้น PTT

เชื่อว่าหลายๆท่านที่ไม่มีธุรกิจเป็นของตัวเอง ส่วนใหญ่จะมีความฝันอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเองซักอย่างนึง อยากเป็นเจ้านายตัวเองไม่ต้องเป็นลูกน...